ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Impetigore - บ้านเกิดปีศาจ

 

ดูหนังฟรี

รีวิว Impetigore - บ้านเกิดปีศาจ

เรียกว่ามีมาให้เราได้ดูกันไม่บ่อยนะครับ สำหรับหนังจากประเทศเพื่อนบ้านเราในละแวกอาเซียน แล้วยิ่งช่วงฮาโลวีนแบบนี้ ก็มีหนังสยองขวัญอาเซียนมาให้เราได้ชมกัน อย่าง "บ้านเกิดปีศาจ" หรือชื่อ Perempuan Tanah Jahanam ในภาษาอินโดนีเซีย ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ โจโก อันวาร์ (Joko Anwar) ผู้กำกับหนังสยองขวัญชาวอินโดนีเซีย รีวิว Impetigore

เรื่องย่อ

เมื่อ มายา (Tara Basro) และ ดีนี่ (Marissa Anita) สองสาวเพื่อนรัก เดินทางกลับมายังบ้านเกิดในหมู่บ้านกลางป่าลึก เพื่อรับมรดกจากครอบครัวที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่กลับต้องพบสายตาที่น่ากลัวของชาวบ้าน พฤติกรรมที่ชวนสงสัย หลุมฝังศพเด็กที่เรียงรายทั่วหมู่บ้าน และดูเหมือนว่าทั้งสองจะต้องเอาตัวรอดจากพิธีกรรมสุดหลอน และความลับที่จะทำให้ผู้ชมทุกคนต้องช็อคเกินคาดเดา


ในช่วงเทศกาลฮาโลวีนปีนี้ แม้ว่าจะไม่ค่อยมีโปรแกรมหนังหลอนๆ จากฝั่งฮอลลิวูดมาให้สะพรึงเหมือนปีก่อนๆ แต่ก็ยังได้ความเฮี้ยนสุดขีดจากทางฝั่งเอเชียมาทดแทนก็ถือว่าเวิร์คอยู่ไม่เบา เพราะเรากำลังพูดถึง "Impetigore บ้านเกิดปีศาจ" หนังผีที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามของอินโดนีเซีย ที่หลอนจัด...จนต้องหอบมาแชร์ให้เพื่อนบ้านได้ระทึกขวัญตามกันด้วย

เรียกว่ามีมาให้เราได้ดูกันไม่บ่อยนะครับ สำหรับหนังจากประเทศเพื่อนบ้านเราในละแวกอาเซียน แล้วยิ่งช่วงฮาโลวีนแบบนี้ ก็มีหนังสยองขวัญอาเซียนมาให้เราได้ชมกัน อย่าง Impetigore บ้านเกิดปีศาจ หรือชื่อ Perempuan Tanah Jahanam ในภาษาอินโดนีเซีย

ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ โจโก อันวาร์ (Joko Anwar) ผู้กำกับหนังสยองขวัญชาวอินโดนีเซียที่เคยมีผลงานการกำกับหนังสยองขวัญมาก่อนหน้านี้แล้วอย่าง Satan’s Slaves (2017)

ที่สร้างความหลอนสุดขั้วจนกลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลบน Box Office ของประเทศอินโดนีเซีย และตัวเขาเองก็ถูกขนานนามว่าเป็น เจมส์ วาน แห่งเอเชีย

เนื้อเรื่อง

เรื่องราวของ มายา และ ดีนี่ เพื่อนสนิท ทั้ง 2 ต้องเผชิญความยากลำบากในการสร้างเนื้อสร้างตัวที่เมืองหลวง โอกาสเปลี่ยนชีวิตที่หาได้ยากจากความเป็นจริง ทำให้ทั้งสองหวังให้โชคชะตาเข้าข้างพวกเธอบ้าง

เมื่อมายาพบเบาะแสที่ทำให้เธอได้รู้ชาติกำเนิดที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน ด้วยความหวังที่จะเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น ทำให้เธอเลือกเดินทางกลับบ้านเกิดที่อยู่ในป่าลึกห่างไกลความเจริญ พร้อมเพื่อนสนิท เพื่อหวังถึงมรดกที่พ่อแม่ตกทอดไว้ให้

แต่ที่แห่งนี้กลับทำให้เธอได้พบเบาะแสใหม่ที่เต็มไปด้วยปริศนา อาถรรพณ์ ลี้ลับ ผู้คนและบรรยากาศอันไม่น่าไว้วางใจของหมู่บ้านกลางป่า ที่มีการแสดงท้องถิ่นที่ชื่อ Wayang (วายัง) ที่คล้ายกับ “หนังตะลุง” บ้านเรา อันละเมียดงดงาม แต่ก็แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของคำสาป การกลับบ้านครั้งนี้จึงอาจกลายเป็นหนทางสู่ความตายของคนทั้งสอง

การนำเสนอ

ในยุคที่ทิศทางหนังสยองขวัญดูหนังฟรี ไม่ใช่แบบตีหัวเข้าบ้าน ด้วยเสียงหรือฉากที่จงใจให้คนดูต้องตกใจ จนดูไร้รสนิยม นั่นจึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายของผู้กำกับหนังแนวนี้ ว่าจะหาทางทำให้หนังมีกึ๋นในตัวได้อย่างไร

ซึ่งผู้กำกับ โจโก อันวาร์ ก็เลือกวิธีการนำเสนอในแบบอนุรักษ์ ด้วยการหยิบจับผลงานหนังสยองขวัญคลาสสิกต่างๆ มาประกอบร่างใหม่ ใส่ไอเดียสร้างสรรค์จนกลายเป็นความเฉพาะตัวขึ้นมา

และในปีนี้ เขากลับมาอีกครั้งกับผลงานที่เขาเองมีไอเดียและเตรียมตัวมานานกว่าสิบปี โดยได้แรงบันดาลใจจากฝันร้ายของเขา ผนวกกับเรื่องราววัฒนธรรมพื้นบ้านของอินโดนีเซีย

โดยเน้นหนักไปที่การแสดงพื้นบ้านอย่าง “Wayang” (วายัง) หรือ หนังตะลุง แท็กทีมกับผู้สร้างหนังสุดหลอนอย่างเกาหลีอย่าง The Wailing (2016) ซึ่งพอเข้าโรงฉาย หนังเรื่องนี้ก็กลายเป็นอีกผลงานของเขาที่ทำรายได้สูงสุดใน Box Office

และได้มีโอกาสไปฉายและได้รับคำชื่นชมจากเทศกาลหนังต่าง ๆ เช่น Sundance Film Festival, Rotterdam Film Festival และ Bucheon Fantastic Film Festival แถมยังทำคะแนนมะเขือสดจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ไปได้ถึง 95% แน่ะครับ

การดำเนินเรื่อง

ส่วนเนื้อเรื่องและตัวพล็อตเองมีความน่าสนใจอยู่นะครับ เป็นเรื่องราวของ 2 สาว มายา และ ดีนี่ ที่ทำงานหาเงินอยู่ในเมือง ทั้งคู่เกิดอยากจะกลับไปยังหมู่บ้านที่เธอเกิด โดยที่มายาเองมีเพียงเบาะแสเดียวที่มีอยู่ก็คือ รูปถ่ายของพ่อแม่ ที่เธอเองก็ไม่เคยเห็นหน้ากับบ้านหลังใหญ่ เธอและดีนี่จึงอยากจะกลับไปเพื่อหวังจะไปรับมรดก แต่เธอเองกลับต้องไปค้นพบและล่วงรู้ “คำสาป” บางอย่างในหมู่บ้านแห่งนี้

ทั้งชาวบ้านที่ดูน่ากลัว พฤติกรรมต่าง ๆ ที่ดูลึกลับแปลกประหลาด หมู่บ้านที่ไม่มีเด็กเลยสักคน กี เซ็ปตาดี (Ario Bayu) ผู้ใหญ่บ้านและนักเชิดหนังตะลุงผู้เลื่องชื่อ กับหญิงชราผู้เป็นแม่ที่ดูไม่น่าไว้วางใจ

ตอนแรกมายาและดีนี่หวังเพียงเพื่อจะมาครอบครองบ้านหลังใหญ่ที่ตอนนี้รกร้างอยู่ กลับกลายเป็นว่าพวกเธอต้องเจอกับปริศนาแห่งคำสาป และเรื่องราวในอดีตของเธอและครอบครัวที่พร้อมที่จะไล่ล่าและเอาคืนพวกเธออย่างโหดร้าย

ปมปริศนาต่าง ๆ

แน่นอนว่าหนังใหม่ชนโรง อย่างที่ผมเกริ่นไว้ว่า จริง ๆ พล็อตของหนังเรื่องนี้น่าสนใจ แต่สิ่งที่ทำให้พล็อตของหนังเรื่องนี้น่าสนใจมาก ๆ ก็คือการผูกปมปริศนาต่าง ๆ นี่แหละครับ ในตอนต้นที่พวกเธอทั้งคู่ยังอยู่ในเมือง ก็ต้องเจอกับเรื่องประหลาดลี้ลับที่หาคำตอบไม่ได้ กับคำสาปที่คอยคุกคามคนในหมู่บ้านอยู่ร่ำไป

พอยิ่งพวกเธอเดินทางไปยังบ้านเกิด และไปนอนพักในบ้านร้าง เธอก็ต้องพบพานกับความโหดร้ายต่าง ๆ นานาที่ค่อย ๆ คืบคลานมาหา ดูเหมือนว่ายิ่งเธอจะรู้เรื่องราวความลับของคำสาปและที่มาที่ไปของเรื่องราวมากขึ้นเท่าไหร่ พวกเธอก็ต้องเผชิญกับความโหดร้ายมากขึ้นเท่านั้น

บรรยากาศของหนัง

ความเจ๋งแรกของหนังเรื่องนี้ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเรื่องของบรรยากาศครับ โดยเฉพาะบรรยากาศความเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในป่าอันห่างไกล บ้านแต่ละหลังยังเป็นบ้านไม้ คลอดลูกด้วยหมอตำแย เวลาที่มีการแสดงหนังตะลุงวายัง ก็ยังต้องจุดตะเกียงอยู่เลย

เป็นบรรยากาศบ้านป่าอินโดฯ ที่ยังคงมีความ “บ้าน ๆ” และมีกลิ่นอาย “ย้อนยุค” ซึ่งแน่นอนว่าบรรยากาศแบบนี้มันก็มีความน่ากลัว และผู้กำกับเองก็สามารถหยิบเอาตรงนี้มาถ่ายทอดได้เป็นอย่างดี (ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในยุคนี้ และนางเอกก็ใช้สมาร์ตโฟนนะ 555)

รีวิว Impetigore

จุดเด่น

อีกความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ก็คือ แม้ว่าจะเป็นหนังอินโดนีเซีย พูดภาษาอินโดฯ กันแบบเต็มร้อย แต่ก็แอบไม่แน่ใจว่า เพราะเป็นการร่วมงานกับทีมงานหนังเกาหลี The Wailing หรือเปล่านะ ถ้าสังเกตดี ๆ จะพบว่า

ภาพโดยรวมทั้งการออกแบบตัวละคร การตัดต่อ มุมกล้อง จังหวะต่าง ๆ เรียกได้ว่ามีกลิ่นอายของหนังเกาหลีอยู่พอสมควรเลย และรวมถึงการออกแบบตัวละครที่มีมิติจริง ๆ

ยกตัวอย่างเช่นนางเอกอย่าง “มายา” ที่แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นคนร้ายกาจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเธอเองก็มีความ “หน้าเงิน” รวมทั้งตัวละครอื่น ๆ ที่จะค่อย ๆ เผยความ “เทา” ออกมาอยู่เรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ

และแม้ว่านี่จะเป็นหนังผีสยองขวัญ แต่เอาจริง ๆ ผีน่ะจิ๊บ ๆ ไปเลยครับ เพราะพาร์ตของความเป็นทริลเลอร์ (และสืบสวนสอบสวนนิด ๆ) นี่แหละครับที่น่ากลัวกว่ามาก ๆ เป็นทริลเลอร์ที่โหดโคตร ๆ แบบสุดเบอร์ แถมยังมีบรรยากาศลึกลับน่ากลัวพ่วงไปด้วย

หนังเรื่องนี้ก็เลยเต็มไปด้วยภาพความรุนแรงโจ๋งครึ่ม เชือดกันแบบจะจะ รวมถึงความลุ้นระทึกของตัวหนังที่บิลต์กันตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นหนังที่คนขวัญอ่อนไม่ควรไปดูรอบดึกคนเดียว และ “หนู ๆ น้อง ๆ เด็กดีเด็กดี” ควรหลีกให้ไกลห่างเลยครับ

จุดสังเกต

และถ้าจะถามถึงข้อสังเกต ก็คงเป็นการเล่าเรื่องหรือให้ข้อมูลเพื่อคลายปมปริศนาในบางจุดยังมีอาการ “ยัดเยียด” อยู่บ้าง แม้ว่าตัวปริศนาเอง สำหรับผมถือว่าไม่มีปัญหา เป็นการเฉลยปมที่ลึกลับและคาดเดาไม่ได้

แต่สิ่งที่ค่อนข้างหลุดในหนังเรื่องนี้คื การยัดข้อมูลแบบที่เรียกว่า นึกจะใส่ก็ใส่เข้ามาเลย แถมยังเป็นการใส่กันมาแบบเป็นก้อน ๆ เล่ายาว ๆ ด้วยวิธีการบางอย่าง แถมมาแล้วก็ไม่ยอมไปซักที

ซึ่งมันทำให้จังหวะของหนังในซีนที่ควรจะกระชับ เดินเรื่องเร็ว ถูกลากยาวออกไปเกินความจำเป็น และทำให้ความมีชั้นเชิงในการเล่าเรื่องเพื่อคลายปมปริศนาดูซับซ้อนน้อยไปหน่อย

สรุป

แม้ว่าเทศกาลฮาโลวีนจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประเทศอินโดนีเซีย หรือแม้แต่ประเทศไทยบ้านเราเองก็เถอะ แต่ถ้ายังอยากจะฉลอง อยากอินไปกับเทศกาลนี้ นี่คือหนังสยองขวัญทริลเลอร์แบบบ้าน ๆ ที่สยองขวัญและโหดเต็มเบอร์มาก ๆ ในแบบที่จะประมาทหนังเพื่อนบ้านอาเซียนของเราไม่ได้เลย เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่น่าจะโหดที่สุดประจำเทศกาลฮาโลวีนปีนี้แล้วล่ะครับ !

ความคิดเห็น