ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

The Broken Hearts Gallery - ฝากรักไว้...ในแกลเลอรี่

 

ดูหนังฟรี

รีวิว The Broken Hearts Gallery - ฝากรักไว้...ในแกลเลอรี่

ในบรรดาเครดิตของหนังที่หลายคนอ่านแล้วงงเป็นไก่ตาแตกเพราะแทบไม่คุ้นเคยสักคนนอกจาก เดเคอร์ มอนต์โกเมอรี ที่เพิ่งผ่านตาไปในซีรีส์ Stranger Things แล้วก็มีแต่ เซเลนา โกเมซ ศิลปินผู้ทรงอิทธิพลที่ขยับขยายจากโลกดนตรีมาสู่ฮอลลีวูดผลักดันซีรีส์เพื่อสะท้อนโลกอันแสนมืดหม่นของวัยรุ่นอย่าง 13 Reasons Why ลง Netflix รวมถึงรายการทีวีต่าง ๆ และก้าวสำคัญของเธอก็คือเรื่องนี้ที่จับประเด็นโดน ๆ อย่างคนที่ชอบเก็บของคนรักหลังเลิกกันมาบอกเล่าในหนังใหญ่ที่เธอจะโพรดิวซ์เรื่องแรก รีวิว The Broken Hearts Gallery

เรื่องย่อ

เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง หลังจากเลิกลากับแฟนหนุ่ม ก็ปิ๊งไอเดียสร้าง The Broken Heart ขึ้นมา เป็นสถานที่ให้คนได้ทิ้งสิ่งของของคนรักที่ทิ้งเราไปมารวมไว้เป็นงานศิลปะที่แห่งนี้ และที่นี่ก็ทำให้เธอได้พบกับชายหนุ่มคนใหม่ที่จะมาเปลี่ยนหัวใจเธออีกครั้ง


ในบรรดาเครดิตของหนังที่หลายคนอ่านแล้วงงเป็นไก่ตาแตกเพราะแทบไม่คุ้นเคยสักคนนอกจาก เดเคอร์ มอนต์โกเมอรี ที่เพิ่งผ่านตาไปในซีรีส์ Stranger Things แล้วก็มีแต่ เซเลนา โกเมซ ศิลปินผู้ทรงอิทธิพลที่ขยับขยายจากโลกดนตรีมาสู่ฮอลลีวูดผลักดันซีรีส์เพื่อสะท้อนโลกอันแสนมืดหม่นของวัยรุ่น

อย่าง 13 Reasons Why ลง Netflix รวมถึงรายการทีวีต่าง ๆ และก้าวสำคัญของเธอก็คือ The Broken Heart Gallery เรื่องนี้ที่จับประเด็นโดน ๆ อย่างคนที่ชอบเก็บของคนรักหลังเลิกกันมาบอกเล่าในหนังใหญ่ที่เธอจะโพรดิวซ์เรื่องแรก

ภาพยนตร์รักโรแมนติกคอเมดี้ กำกับและเขียนบทครั้งแรกของ นาตาลี ครินสกี และเซเลน่า โกเมซ รับหน้าที่เป็น Executive Producer นำแสดงนำโดย เจอรัลดีน วิสวานาธาน, เดเคอร์ มอนต์โกเมอรี่, Utkarsh Ambudkar, มอลลี่ กอร์ดอน อาร์ทูโร แคสโตร เบอร์นาเดต ปีเตอรส์

และ ฟิลลิปา ซู โซนี่ พิคเจอร์ รับหน้าที่สร้างและจัดจำหน่าย ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของความรักที่มักมาพร้อมการอกหัก การปล่อยวาง และการยอมรับความเจ็บปวดของตัวเอง ซึ่งมันน่าสนใจเพราะที่อเมริกามีแกเลอรี่อกหักที่ให้คนเอาสิ่งของมาเก็บไว้จริง ๆ ที่ LOS ANGELES!

เรียกได้ว่าเป็นหนังรักที่เป็นม้ามืดของปีนี้เลยสำหรับ The Broken Hearts Gallery ที่ออกฉายไปตั้งแต่เดือนกันยายน แต่โซนี่พิคเจอร์ไทย เพิ่งจะเอาเข้าฉายในโรงภาพยนตร์มาสด ๆ ร้อน ๆ และได้รับคำชื่นชมจากคนที่ได้ดูในรอบสื่อ

ซึ่งผมยอมรับว่านี่เป็นหนังที่ผมคาดหวังมาก เพราะนอกจากจะได้เซลีน่า โกเมซ นักร้องสาวชาวอเมริกันเจ้าของเพลงดังอย่าง Ice Cream ที่ร้องร่วมกับวงแบล็กพิงก์มาร่วมเป็นโปรดิวเซอร์แล้ว ยังมีเรื่องของเรื่องราวรวมถึงนักแสดงที่เราอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันอย่าง เดเคอร์ มอนต์โกเมอรี่ ที่เคยฝากบทบาทการแสดง บิลลี่ หนุ่มดาวยั่วให้สาว ๆ หัวใจพองตัวและร้ายสุดขั้วโลกจากซีรีส์ สเตรนเจอร์ ธิงส์ ซีซั่น 3

คราวนี้เขามารับบท นิค ตัวละครหลักเป็นครั้งแรกอีกด้วย แต่นอกจากนั้นผมไม่รู้จักใครเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะส่วนตัวแล้วภาพยนตร์ที่คนไม่ค่อยสนใจนักแสดงดัง มักจะให้ผลออกมาเกินคาดเสมอ แต่เรื่องนี้จะเป็นแบบนั้นได้หรือไม่ มาฟังเรื่องย่อกันเลยครับ

เนื้อเรื่อง

ลูซี่ (เจอรัลดีน วิสวานาธาน) สาวรักคุดที่มักเก็บสิ่งของจากแฟนเก่าเป็นที่ระลึก ในคืนหนึ่งด้วยความเมาและภาพบาดตาที่เห็นแม็กซ์ (อัตคาร์ช อัมบุดการ์) แฟนหนุ่มกระหนุงกระหนิงกับแฟนเก่าจนเธอทั้งอกหักและตกงานในคืนเดียว จากพฤติกรรมสิ้นคิดต่อหน้าธารกำนัล แถมดันไปมั่วขึ้นรถของนิก (เดเคอร์ มอนต์โกเมอรี) หนุ่มหล่อตาหวานเพราะคิดว่าเขาคืออูเบอร์ที่เธอเรียกกลับบ้าน

และเหมือนบุพเพอาละวาดที่ลูซี่ก็ได้มาเจอกับนิกอีกครั้งในวันที่เธอตั้งใจจะไปวีนแม็กซ์ในร้านอาหารหรูจนทั้งคู่ได้ใช้เวลาร่วมกันและแล้วความฝันในการเปิดโรงแรมของนิกกับแกลเลอรีสำหรับคนอกหักของลูซี่ก็ได้มาเจอกัน แต่ท่ามกลางกระแสที่คนอกหักมักเอาของคนรักเก่ามาฝากจัดแสดงความสัมพันธ์ของลูซี่และนิกก็เริ่มงอกงามเหลือเพียงแต่คำถามว่าทั้งคู่พร้อมจะมูฟออนจากอดีตหรือยัง ?

การดำเนินเรื่อง

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือตัวหนังรอดได้ด้วยความเชี่ยวมือของ นาตาลี ครินสกี ที่เทิร์นโปรจากมือเขียนบทซีรีส์ดัง ๆ ทั้ง Gossip Girl และ Grey Anatomy ที่สามารถหาลีลาและสร้างคาแรกเตอร์สาว ๆ ที่มีสีสันแทบทุกตัว นอกจากลูซี่ที่เธอปั้นให้สาว 20 กลาง ๆ ช้ำรักได้เปี่ยมสีสัน

แล้วเพื่อน ๆ ของเธออย่างนาดีน (ฟิลิปา ซู) เพื่อนสาวเลสเบี้ยนเพลย์เกิร์ลประจำแก๊งหรืออแมนดา (มอลลี กอร์ดอน) นักศึกษากฎหมายที่คลั่งไคล้หนังฆาตกรรมก็กลายเป็นสีสันสำคัญที่ทำให้หนังมีชีวิตชีวาไม่น้อยเลย

ผิดกับหนุ่ม ๆ ในเรื่องที่ครินสกีดูจะไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือไม่ปั้นคาแรกเตอร์ให้มีมิติเท่าไหร่ทั้งแม็กซ์ที่ดูเป็นหนุ่มหล่อสไตล์แขกจอมหักอกที่ดูเห็นแก่ตัวเสมอต้นเสมอปลาย ส่วนนิกก็ขายความหน้าหวานและบุคลิกหนุ่มแสนดีในฝันของสาว ๆ จนกว่าเราจะได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังตัวละครหนังก็ให้เวลาพวกเขาไม่เยอะเท่าที่ควร.

กระนั้นสิ่งที่ยกประโยชน์ให้จำเลยจริง ๆ คงเป็นเรื่องราวการมูฟออนที่ดูหนังฟรีเหมือนจับยามสามตารู้เช่นเห็นชาติจับประสบการณ์ร่วมของคนช้ำรักมาเล่าได้แบบแทบแหวกอกเอาเรื่องราวพัง ๆ มาผูกโยงผ่านเหตุการณ์ของคนในแกลเลอรีได้แบบดูไปซี้ดไป และบางตอนของหนังก็น่าจะแอบทำเอาใครหลายคนน้ำตาซึมได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ความเท่าเทียมทางเพศ

อีกจุดที่น่าชื่นชมคือในปี 2020 หนังได้สร้างมาตรฐานความเท่าเทียมทางเพศในหนังแทบทุกมิติ นอกจากผู้หญิงในเรื่องเป็นมนุษย์ที่พูดเรื่องเพศได้อย่างเปิดเผยแล้ว ภาพในหนังยังทำให้เราเห็นความงามของนักแสดงที่ไม่เคยอยู่ในพิมพ์นิยมอย่าง เจอรัลดีน วิสวานาธาน สาวลูกครึ่งอินเดียที่เคยโผล่เป็นลูกสาวจอห์น ซีนาใน BLOCKERS และซีรีส์ Bad Education ทาง HBO ผู้ทำให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องขาวหรือผอมก็ดูมีเสน่ห์ได้

ซึ่งวิสวานาธานก็แสดงได้อย่างมีเสน่ห์แม้บทของเธอจะแอบสร้างความรำคาญอยู่บ้างแต่ด้วยรอยยิ้มและท่าทางคาแรกเตอร์น่ารัก ๆ ก็ทำให้เธอสว่างไสวและเป็นนางเอกที่เรารักได้ไม่ยาก ส่วน เดเคอร์ มอนต์โกเมอรี แม้เราจะไม่ค่อยได้เห็นหนังออนไลน์ เขาได้โชว์ฝีมือเท่าไหร่แต่ต้องยอมรับทั้งหน้าตาและรูปร่างที่ใกล้เคียงหนุ่มในฝันของสาว ๆ ก็น่าจะทำให้ใครหลายคนแอบเก็บมาจิ้นได้ไม่ยากเลย

ประเด็นสังคมความสัมพันธ์ที่ทันยุคทันสมัย

นอกจากความรักของคนในเรื่อง หนังยังแซะประเด็นสังคมโดยเฉพาะเรื่องสังคมปิตาธิปไตย (ผู้ชายเป็นใหญ่) ซึ่งผ่านความสัมพันธ์ตัวละคร แม็กซ์ (Utkarsh Ambudkar) แฟนเก่าของลูซี่ ที่ตอนคบกับลูซี่เขายึดลูซี่เป็นเหมือนเครื่องมือเพื่อความสำเร็จทางการงาน ทั้งที่เธอมีความสามารถมากกว่าเขา

แต่กลับไม่เคยชื่นชมเธอ ไม่เห็นค่าเธอ แถมยังทิ้งเธอไปหาผู้หญิงคนใหม่ พร้อมกับหน้าที่การงาน ทิ้งให้เธอเจ็บปวดกับรักที่มันเป็นพิษ และอาจจะสายไปด้วยหากเขาเลือกที่จะกลับมาหาลูซี่ ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่า สังคมยังไม่เปิดโอกาสให้กับผู้หญิงได้ฉายแสงในการทำงานมากหนัก

แม้ว่าผู้หญิงจะมีฝีมือความสามารถมากแค่ไหน แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังมองข้าม ยังกดพวกเขาไว้ และในความสัมพันธ์ก็เช่นกันจนพังไม่เป็นท่า หรือแม้แต่คำพูดของตัวละครตัวหนึ่งในเรื่องที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของลูซี่ที่ยอมแฟนไปซะทุกเรื่อง

จนไม่กล้าทำอะไรด้วยตัวเอง การร่วมมือร่วมใจฝ่าอุปสรรคของตัวละครหญิงที่โดดเด่น แต่ก็ไม่กดขี่หรือแย่งชิงบทบาทกับผู้ชายของเรื่อง เรียกได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ให้พื้นที่และบทบาทความเท่าเทียมกับทุกคน ทุกชนชาติ และทุกสีผิวเลยทีเดียว

รีวิว The Broken Hearts Gallery

จุดเด่น

ภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราวความรักและการอกหักได้อย่างคมคาย มีคำพูดหรืออะไรหลายอย่าง ที่ตัวละครพูดออกมาแล้วสามารถเอามาใช้ได้ในชีวิตจริง แม้ว่าจะบทหนังจะออกแนวเรียบง่ายประสาหนังรักรอมคอมที่มีพล็อตเรื่อย ๆ เล่าเหตุการณ์นึงไปเหตุการณ์นึง

แต่ในระหว่างการเดินทางของเรื่องราว นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครแล้ว หนังยังให้พื้นที่กับสิ่งของเก่าต่าง ๆ ได้มีบทบาทแทนความทรงจำและความเจ็บปวดของคนที่เคยรักกันผ่านตัวละครหลักได้เป็นอย่างดี

ซึ่งก็ถ่ายทอดมาในรูปแบบโอเวอร์แอ็คติ้ง ร้องไห้ยังไงให้ดูตลก โวยวายยังไงให้ดูฮา เมาท์กันยังไงให้ดูขำ ผ่านตัวละครของนิคและลูซี่ที่ได้มาเจอกันท่ามกลางวันแย่ ๆ ของชีวิต ได้ช่วยกันทำงาน ได้เรียนรู้ตัวตนซึ่งกันและกัน ได้มูฟออนไปด้วยกัน ซึ่งเป็นช่วงที่เราได้อมยิ้มไปพร้อม ๆ กับอยากรู้ว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไร แถมยังค่อย ๆ เห็นตัวละครเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปทีละก้าว

ทว่าในช่วงหลังของเรื่อง หนังกลับจริงจังและชัดเจนว่าไม่ได้อยากเป็นแค่ความบันเทิง แต่ยังให้ความรู้สึกโอบรับผู้ชมทุกคนที่อาจจะเคยอกหักหรือไม่เคยอกหักได้เรียนรู้และเข้าใจไปพร้อมกับตัวละคร โดยไม่ทิ้งความตลกให้เราดูได้อย่างเพลิน ๆ

และพัฒนาไปพร้อมกับตัวละครที่ตอนแรกอาจจะเป็นคนแบบหนึ่ง แต่ตอนหลังจะกลายเป็นคนแบบหนึ่ง ซึ่งมันดีมาก ๆ เพราะมันทำให้เราเข้าใจเจตนาและปมของตัวละครที่ขับเคลื่อนไปด้วย เพราะฉะนั้นหากคิดว่าจะเป็นหนังรักฮา ๆ ธรรมดาอย่างในตัวอย่าง ผมบอกเลยว่าคุณคิดผิด เพราะดูจบแล้ว คุณอาจจะรู้วิธีหาทางที่จะมีความสุขจากการอกหักได้แน่ ๆ

โดยรวม

โดยรวมต้องยอมรับว่า The Broken Hearts Gallery น่าจะเป็นหนังโรแมนติกที่น่าพึงพอใจที่สุดแล้วของปีนี้ในแง่ที่มันสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ผู้ชมได้เกินคาด แถมยังมีข้อคิดดี ๆ เรื่องความรักเป็นของแถมให้ผู้ชมนอกจากความสนุกที่หนังเสิร์ฟให้อย่างคุ้มค่าตั๋วเลยทีเดียว

สรุป

ภาพยนตร์รักอกไม่หัก ที่ครบเครื่องด้วยเนื้อเรื่องไม่หวือหวาแต่ใส่ใจในรายละเอียด ทั้งตลกทั้งน้ำตาซึม ช่วงแรกตะกุกตะกักหน่อย แต่หลังจากนั้นเพลินจนจบเลยครับ

ความคิดเห็น