รีวิว รักหนูมั้ย
หลังเปิดตัวหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์ เมื่อ 3 ปีที่แล้วคงยากที่จะมองเห็นภาพหนังพูดอีสานที่เอาชีวิต ความรัก และความฝันของวัยรุ่นในตะวันออกเฉียงเหนือมาคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งคอมเมดี้ห่าม ๆ ดราม่าเรื่องชีวิต และโรแมนติกแบบหวานขม พร้อมด้วยนักแสดงนำชายหน้าตาบ้าน ๆ อย่าง ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร ในบทจาลอด หนุ่มอีสานบ้าน ๆ ผู้กุมหัวใจสาวสวยจนเกิดเป็นเรื่องรักสามเส้าขึ้น และยังดึงสายตาผู้ชมหนุ่ม ๆ ด้วยสาวสวยดีกรีดาวมหาวิทยาลัย รีวิว รักหนูมั้ย
เรื่องย่อ
เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 3 ที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน คืนหนึ่งพวกเขาได้ข้างสาวขายบริการมาสร้างความสุขให้ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไป สาวคนนั้นก็กลับมาหาพวกเขาถึงบ้านและขอมาอาศัยอยู่ด้วย พร้อมเผยความจริงว่าเธอท้อง ที่สำคัญ 1 ใน 3 คนนี้แหละคือพ่อของเด็ก ทั้ง 3 จึงพยายามหาข้อพิสูจน์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปความผูกพันของทั้ง 3 ที่มีต่อเด็กและแม่เด็กก็เพิ่มพูมขึ้นเช่นกัน
ปี 2020 ต้องเผชิญหน้ากับโรคระบาดที่ไม่สามารถคาดเดาใดๆ ได้ จึงทำให้เป็นปีที่เราไม่ค่อยเห็นได้ความเคลื่อนไหวและเสพผลงานหนังในจักรวาลไทบ้านกันสักเท่าไหร่เลย แต่ล่าสุดพวกเขาก็ส่งหนังใหม่ออกมา แม้ว่าจะนิยายชัดเจนว่า...เรื่องนี้อยู่นอกจักรวาลฯ เป็นเรื่องแรก แค่ใช้นักแสดงที่คุ้นหน้ากันดี
หลังเปิดตัวหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์ เมื่อ 3 ปีที่แล้วคงยากที่จะมองเห็นภาพหนังพูดอีสานที่เอาชีวิต ความรัก และความฝันของวัยรุ่นในตะวันออกเฉียงเหนือมาคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งคอมเมดี้ห่าม ๆ ดราม่าเรื่องชีวิต และโรแมนติกแบบหวานขม
พร้อมด้วยนักแสดงนำชายหน้าตาบ้าน ๆ อย่าง ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร ในบทจาลอด หนุ่มอีสานบ้าน ๆ ผู้กุมหัวใจสาวสวยจนเกิดเป็นเรื่องรักสามเส้าขึ้น และยังดึงสายตาผู้ชมหนุ่ม ๆ ด้วยสาวสวยดีกรีดาวมหาวิทยาลัย
จากวันนั้นจนถึงพ.ศ.นี้ลำพังจักรวาล ไทบ้านเดอะซีรีส์ก็มีหนังออกมาอย่างต่อเนื่อง (นับเฉพาะหนังในชื่อ ไทบ้านเดอะซีรีส์ก็ 3 เรื่องแล้ว) และล่าสุดก็เพิ่งร่วมงานกับ BNK 48 ในชื่อ ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้
ฉายไปตอนต้นปีเป็นการขยับขยายเอาวัฒนธรรมอีสานมาผสมคลุกเคล้ากับวงการไอดอล และไม่นานเกินรอสัปดาห์นี้ช่วงเวลาดีต้นเดือนพฤศจิกายนก็ได้ฤกษ์ที่ รักหนูมั้ย หนังดรามาโรแมนติกฮา ๆ เคล้าน้ำตาและประเด็นหมิ่นเหม่อย่างการท้องในวัยรุ่นได้เข้าฉาย
เนื้อเรื่อง
จากความสนุกบนเตียงชั่วข้ามคืน พลอย (ยีนส์ ภัทร์ธีราภรณ์ สุโพธิ์) สาวไซด์ไลน์เกิดตั้งท้องจากการรับงานครั้งแรกกับ 3 หนุ่มได้แก่ ออฟ (ด้งเด้ง ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร) หนุ่มช่างไม้เด็กแนว จอห์น (ต้องเต ธิติ ศรีนวล) นักศึกษาวิทยาล้ยช่างศิลป์ขี้อาย
และ กิว (ตาต้า ชาติชาย ชินศรี) หนุ่มไม่เอาถ่าน เพลย์บอยที่มาอาศัยบ้านจอห์นอยู่ และในระหว่างทางที่พวกเขากำลังหาคำตอบจากผล DNA ว่าใครเป็นพ่อเด็ก การมาถึงของเด็กน้อยและความรักของพวกเขาทั้ง 4 กำลังนิยามความหมายใหม่ของคำว่าครอบครัว
กำกับหนังเรื่องแรกของ โน่ ภูวเนตร สีชมพู
หนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนไปดู รักหนูมั้ย หนังไทยนอกจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ ที่ชื่อสุดแสนจะเรียบง่ายและจริงใจ คือนี่เป็นงานเปิดซิงกำกับหนังเรื่องแรกของ โน่ ภูวเนตร สีชมพู ที่เคยปรากฎตัวในบทฝรั่งลูกอีสานจากไทบ้านเดอะซีรีส์มาก่อน และจากพื้นเพความรู้ด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์
งานออกแบบที่เห็นในหนัง รักหนูมั้ย เลยไม่ธรรมดายิ่งได้รู้ถึงที่มาที่ไปกับความทะเยอทะยานถึงขั้นทิ้งฟุตเตจไป 6 คิวเพราะแบบบ้านไม่ได้ตามต้องการแล้วล่ะก็เรายิ่งต้องพินิจพิเคราะห์สัญญะที่ส่งผ่านพื้นที่ในบ้านที่เปรียบดังตัวละครสำคัญให้ดีแล้วล่ะ
ยิ่งหนังใช้พื้นที่บ้านหลังเดียวในการบอกเล่าเรื่องราวเกิน 90% ทำให้การเปลี่ยนแปลงของตัวละครจะสัมพันธ์กับบ้านไปด้วย ทุกอย่างถูกออกแบบอย่างเป็นเหตุเป็นผลทั้งห้องนอนที่กิวใช้ในกามกิจของตนกับสาวมากหน้าหลายตา
หรือพื้นที่ตรงกลางที่ทั้ง 4 คนใช้เวลาร่วมกันทั้งกินข้าวไปจนถึงเลี้ยงลูกน้อย เราจะเห็นพื้นที่ที่เคยเป็นที่เกิดเหตุ (เรื่องคืนนั้นในตอนต้นเรื่อง) กลายเป็นผลลัพธ์ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวละครได้อย่างชัดเจน
จุดเด่น
แต่สิ่งที่มหัศจรรย์จริง ๆ ของดูหนังออนไลน์คือบทภาพยนตร์ที่ท้าทายบรรทัดฐานของสังคมเพราะความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อมยิ่งเกิดกับไซด์ไลน์หน้าตาดีที่ขายบริการให้ผู้ชาย 3 คนในบ้านหลังเดียวกันย่อมดูเป็นเรื่องราวที่ไม่ปกติระดับป้าข้างบ้านได้ยินคงเอามือทาบอกแน่ ๆ
แต่ทีละน้อยตัวหนังก็ค่อย ๆ ใช้เวลาของมันอย่างคุ้มค่าด้วยการถักทอเรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวละครและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มาพิสูจน์เส้นทางการเติบโตของตัวละครได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล
ความรับผิดชอบในสังคมกับเยาวชน
และที่เหนือชั้นกว่านั้นคือการที่บทหนังตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบที่สังคมมีต่อเยาวชนในปัจจุบันทางอ้อม เราจะเห็นฉากที่พ่อของพลอยมาที่บ้านและแสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่ในปัจจุบันไม่อาจพึ่งพาได้ขนาดไหน
หรือกระทั่งป้าของจอห์นที่ไม่เคยกลับมาบ้านเลยก็เหมือนปล่อยให้หลานดูแลตัวเองแบบตามมีตามเกิด ดังนั้นความคิดที่เอ็กซ์ตรีมถึงขั้นเป็นพ่อร่วมกัน 3 คนเลยกลายเป็นตลกร้ายในตัวเองอยู่แล้ว
เพราะ จอห์น ออฟ และกิว ก็ถูกสถานการณ์บีบบังคับให้รับผิดชอบทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่พร้อมและแทบเอาตัวไม่รอด ที่เลวร้ายกว่านั้นหนังยังกล่าวถึงสังคมรอบนอกที่พวกเขาเป็นห่วงนักหนาว่าพลอยจะโดนครหาว่าเป็นเมียหลายผัว
หรือพลอยเองก็ต้องจำทนเงียบเสียงเมื่อเจอคำพูดของกิวที่ตอกย้ำสถานะอาชีพขายบริการของเธอ นั่นเลยทำให้บ้านหนึ่งหลังถูกแทนภาพไปไกลถึงผลพวงจากสังคมไทยที่ปากว่ามือขยิบได้อย่างเห็นภาพชัดเจน
แต่ใช่ว่าตัวเว็บดูหนังเอาเรื่องหนัก ๆ มาเล่าแล้วจะไร้อารมณ์ขันนะครับ ตรงกันข้ามเลยหนังเอาอารมณ์ขันมาขับเคลื่อนเรื่องราวด้วยมุกที่ยิงกันแทบไม่เว้นซีน แต่จังหวะของมันก็สอดรับกับดรามาของเรื่องได้ลงตัวมากและการได้นักแสดงจากไทบ้าน เดอะซีรีส์มาถือเป็นอาวุธสำคัญในการยิงมุกที่เข้าเป้าและสร้างความผูกพันให้คนดูได้อย่างรวดเร็ว
เหล่านักแสดง
งานนี้นักแสดงอย่าง ต้องเต ธิติ ศรีนวล จากที่เคยรับบทคนบ้าใน ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ก็ต้องมารับบทหนุ่มช่างศิลป์เก็บความรู้สึกอย่างจอห์นได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งมุกตลกแบบสแลปสติ๊กหรือตลกตบโต๊ะที่ชงตลอดเรื่องแล้ว
ยังช่วยเสริมความโรแมนติกดรามาให้เรื่องราวได้อย่างดี ส่วน ด้งเด้ง ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร ที่ดังจากบทจาลอดก็ต้องมาเป็นจอห์น ช่างไม้จอมปั่นที่มีแฟนเป็นสาวเหนือคนสวยก็มาในมาดเด็กแนวสุดปั่นทำให้หนังครื้นเครงได้เป็นอย่างดี
และที่ไม่ทำให้ผิดหวังเลยคือ ตาต้า ชาติชาย ชินศรี ที่เคยทำคนดูเสียน้ำตาจากบทเซียงใน ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ก็ต้องมารับบท กิว หนุ่มไร้ความรับผิดชอบซึ่งบทก็เปิดโอกาสให้เราได้เห็นทั้งความห่ามและอารมณ์อบอุ่นที่ซ่อนอยู่ในการแสดงของเขาได้อย่างดี
และที่ต้องปรบมือให้ไม่แพ้กันคือ ยีนส์ ภัทร์ธีราภรณ์ สุโพธิ์ นางเอกคนสวยที่คราวนี้เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของเรื่องก็ว่าได้เธอสามารถทำให้บทไซด์ไลน์ที่ดูแรงด้วยเนื้อหาดูเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจและหนังก็ให้ฉากที่เธอได้โชว์ฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ คือฉากที่จอห์นซื้อปลาทองมาให้ที่เธอเรียกน้ำตาคนดูได้อย่างไร้ข้อกังขาจริง ๆ
โดยรวม
การถ่ายทำ มุมกล้อง การจัดองค์ประกอบต่างๆ ยังทำออกมาได้ดีมาก ส่งเสริมเรื่องราวในเรื่องได้เยี่ยม เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของบ้านที่เหล่าตัวเอกอาศัยอยู่ความเละทะในตอนแรก จนมันได้กลายเป็นบ้านมากขึ้น พร้อมๆ กับความสัมพันธ์ของตัวละครที่เริ่มเปลี่ยนแปลงและสะท้อนภาพของคำว่าครอบครัวออกมาได้อย่างน่ารัก
ชอบความที่หนังไม่ตัดสิน ไม่ได้ชี้ว่าถูก ไม่ได้ชี้ว่าผิด หนังเพียงแต่ถ่ายทอดความสุขในแง่มุมของพวกเขา 3-4-5 คนเท่านั้น แถมมีการสอนและให้ข้อคิดกับวัยรุ่นได้อย่างแนบเนียน ฉากจบช่วง Post-Credit ดูธรรมดา แต่งดงามและน่ารักมากจริงๆ
สรุป
เป็นหนังที่เหมาะมากที่พ่อแม่จะได้จูงลูกหลานที่เป็นวัยรุ่นไปดูเพื่อทำความเข้าใจทั้งมิติทางสังคมปัจจุบันที่เซ็กส์กับวัยรุ่นเป็นของคู่กัน รวมไปถึงการที่หนังพยายามถ่ายทอดเรื่องราวท้องไม่พร้อมแบบไม่มีการตัดสินผิดถูก
แต่ให้เห็นผลจากการกระทำก็น่าจะทำให้น้อง ๆ หนู ๆ วัยรุ่นทั้งหลายได้พิเคราะห์ให้ดีก่อนจะไปหลับนอนกับใครได้อย่างไม่ยัดเยียด ที่สำคัญหนังตลก อบอุ่น และดูสนุกมากครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น